เรื่องราวของ ซน เฮือง-มิน จากจุดเริ่มต้นสู่การเป็นสตาร์ดังของ สเปอร์ส

เรื่องราวของ ซน เฮือง-มิน จากเด็กน้อยขี้อายสู่การเป็นไอคอนของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ส

เรื่องราวของ ซน เฮือง-มิน กับเรื่องที่เกี่ยวกับวิดีโอเกม ที่ช่วยให้ดาวเตะเกาหลีใต้ กลายเป็น 1 ในผู้เล่นที่ดีที่สุดในโลกคนนึง และที่ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ส

เมื่อ Son Heung-Min สตาร์ของทีม “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮออตสเปอร์ส อายุได้ 10 ขวบ พ่อของเขาซึ่งเป็นนักฟุตบอลที่เกษียณอายุในการเล่นฟุตบอลไปแล้ว จะคอยมอบของขวัญเป็นเกมคอมพิวเตอร์ที่ดีที่สุด ให้เขาเป็นรางวัลทุกครั้งเมื่อเขาทำประตูได้

ความหลงใหลในเกมกีฬาฟุตบอลของเขาเติบโตขึ้น แต่ความรักในเล่นวิดีโอเกม ก็เป็นเชื้อไฟนำทาง ให้พ่อของเขาใช้ในการฝึกฝนทั้ง ซน และ เฮือง-ยุน พี่ชายของเขา

เมื่อตอนที่เขาอายุได้ 16 ปี ซน ออกจากบ้านเกิด เพื่อย้ายไปผจญภัยในต่างแดนครั้งแรกกับ ฮัมบูร์ก ล่าสุด ในศึก บุนเดสลีก้า เยอรมัน ซน ก็ได้รับคำแนะนำจากโค้ชที่ เอฟซี โซล สโมสรในเกาหลีใต้ว่า นี่เป็นหนึ่งในสโมสรที่ดีที่สุด ที่นักเตะมาจากสโมสรในเกาหลีใต้

“เขายังเด็ก และเป็นที่ชื่นชอบมาก แต่สามารถบรรลุเป้าหมายได้” ฮาอึน โค้ชทีมเยาวชนของ ซน ที่ เอฟซี โซล กล่าวกับ LondonWorld

“เขาไม่ได้อยู่กับเรานาน หรืออย่างที่เราต้องการ แต่ผู้เล่นบางคนก้าวหน้าเร็วมาก และพ่อของเขาทำการสอนเรื่องพื้นฐานของฟุตบอลแล้ว ดังนั้นเขาจึงเข้าเร็ว และไปเร็ว

“ด้วยเหตุผลบางอย่างที่เรารู้ว่า เขามีบางอย่างในตัวเขา และสามารถเป็นผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมได้ ดังนั้นผมจึงไม่แปลกใจเลยจริงๆ ที่เห็นว่าเขาเป็นอย่างไรได้บ้างในตอนนี้

“แต่เราทุกคนชอบเขาจริงๆ และเขาก็มีความสามารถจริงๆ ท่ามกลางกลุ่มผู้เล่นในรุ่นเดียวกัน ที่เข้ามาในปีนั้น”

เรื่องราวของ ซน เฮือง-มิน กับช่วงเวลาใน บุนเดสลีก้า

พ่อของเขาเดินทางมา และอาศัยอยู่กับเขาในเยอรมัน เมื่อเขาเข้าร่วมทีมเยาวชนของ Hamburger SV และกลับมาที่โซล หลังจากที่ซนได้เปิดตัวกับทีมแรกของเขาใน บุนเดสลีก้า

ในสามฤดูกาลที่เล่นกับทีมชุดใหญ่ของ ฮัมบูร์ก เอสวี ซนไม่เพียงเติบโตในฐานะนักฟุตบอลเท่านั้น แต่ยังพัฒนาจากเด็ก ผอมแห้ง และขี้อาย มาเป็นตัวอันตรายต่อทีมฝ่ายตรงข้ามอย่างต่อเนื่อง

เวลานั้นเขามีข่าวเชื่อมโยงกับยักษ์ใหญ่อย่าง บาเยิร์น มิวนิค และยังมีรายงานอีกว่าปีศาจแดง แมนยูล่าสุด สโมสรที่รุ่นพี่ในทีมชาติเกาหลีใต้อย่าง ปาร์ค จี-ซุง ได้ค้าแข้งอยู่ที่นั่น กำลังเฝ้าติดตามความคืบหน้าของเขา แต่ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจย้ายไป ทีมไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ด้วยเงินประมาณ 8.7 ล้านปอนด์ (ราวๆ 396.9 ล้านบาท) ซึ่งเป็นค่าตัวสถิติใหม่ของสโมสร สำหรับทีมของเยอรมันในขณะนั้น

แล้วผลงานของ ซน เฮือง-มิน ที่เคยทำไว้ในช่วงสามปีที่เขาอยู่กับทีมชุดใหญ่ของ ฮัมบูร์ก

2010-2011 ลงเล่น 8 เกม ยิงได้ 3 ประตู 0 แอสซิสต์ 

2011-2012 ลงเล่น 11 เกม ยิงได้ 5 ประตู 0 แอสซิสต์ 

2012-2013 ลงเล่น 13 เกม ยิงได้ 12 ประตู 2 แอสซิสต์ (ถือว่าเป็นช่วงที่กำลังพีคสุดกับ ฮัมบูร์ก)

สถานีต่อไปของ ซน คือทีม “ห้างขายยา” ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น

การมาที่สโมสรแห่งใหม่ เลเวอร์คูเซ่น ความเจิดจรัสของ ซน ยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และเขาทำประตูได้ และแอสซิสต์ได้ ด้วยเหตุนั้นจึงทำให้เขาถูกนำไปเปรียบเทียบกับกองหน้าชาวบราซิลในตำนาน “เหยินใหญ่” โรนัลโด้

“เมื่อเขาออกจาก ฮัมบูร์ก เอสวี เราทุกคนรู้อยู่แล้วว่าเขายอดเยี่ยม ส่วนที่ Leverkusen เมื่อฐานแฟนคลับของเขาเริ่มเติบโตขึ้น” Gun Lee นักข่าวชาวเกาหลีใต้ซึ่งรอบรู้เรื่องอาชีพของ ซน เฮือง-มิน ตั้งแต่เริ่มต้นได้กล่าวว่า

“ในตอนนั้นเป็นเรื่องปกติที่จะเห็นชาวเกาหลีจำนวนมากเดินทางจากโซลไปเยอรมันเพื่อดูเขาเล่น

“เขาทำผลงานได้ดีมากที่นั่น และผมคิดว่าเมื่อถึงจุดๆ หนึ่งเขาก็มีข่าวเชื่อมโยงกับ บาร์เซโลน่า และเรอัล มาดริด แต่พ่อของเขาเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจย้ายทีมครั้งต่อไปของเขาอยู่เสมอ และเขาเองก็อยากเล่นในพรีเมียร์ลีก อังกฤษด้วย ดังนั้นผมเดาว่า มันชั่งน้ำหนักได้ ในกระบวนการตัดสินใจขั้นสุดท้าย

“ผมต้องบอกว่าเขาได้รับการชี้แนะมาอย่างดี แต่ถึงแม้มันอาจจะเป็นการพูดแปลกๆ ก็ตาม แต่วัฒนธรรมในเกาหลีคือการที่เรายอมให้พ่อแม่ของเราตัดสินใจเรื่องสำคัญๆ ทุกเรื่องสำหรับเรา”

สถิติของ ซน เฮือง-มิน ในช่วงเวลาการค้าแข้ง อยู่กับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น 2 ปี

2013-2014 ลงเล่น 29 เกม ยิงไป 10 ประตู 2 แอสซิสต์

2014-2015 ลงเล่น 28 เกม ยิงไป 11 ประตู 2 แอสซิสต์

การเดินหน้าของตี๋ ซน “โอปป้า” สู่ไอคอนของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ส 

ตี๋ซน ในตอนนั้น ยังอยู่ไกลจากความจริง ในเรื่องลิสต์รายชื่อของทีมแมวมองของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ส ที่จะดึงตัวสู่ทีมเมื่อเริ่มต้นฤดูกาล 2015-2016

ตัวเลือกแรกในตอนนั้นคือ ไซโด้ เบราฮิโน ของ เวสต์บรอมวิช แต่ข้อเสนออันสูงเกินไปถึง สองข้อเสนอจากสโมสรได้ถูกปฏิเสธโดย เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ซึ่งไม่ต้องการมีส่วนร่วมในการเจรจาใดๆ

สเปอร์ส หมดความอดทนในการไล่ล่านักเตะใหม่รายนี้ ดังนั้น Mauricio Pochettino จึงหันความสนใจไปที่ดาวเตะชาวเกาหลีใต้ ที่เป็นตัวหลักในทีมชาติของเขาด้วยค่าตัว 22 ล้านปอนด์ (ราวๆ 1 พันล้านบาท)

ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ คว้าตัว ซนนี่ จาก ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น และปิดฉากการไล่ตามคว้าตัวนักเตะอย่าง เบราฮิโน

กองหน้าชาวเกาหลีใต้ มาถึงช่วงซัมเมอร์นั้นพร้อมกับผู้เล่นอีกสี่คน ได้แก่ Clinton N’Jie, Toby Alderweireld, Kieran Trippier และ Kevin Wimmer

ในฤดูกาลแรกของเขาค่อนข้างเป็นเรื่องที่ท้าทาย และเขาเล่นในลีก 28 เกม โดยทำได้ 4 ประตูและ 1 แอสซิสต์

สเปอร์ส ต่อสู้เพื่อชิงแชมป์ พรีเมียร์ลีก ซึ่งในที่สุดก็มลายสลายไปเมื่อสโมสรจบอันดับ 3 อย่างน่าผิดหวังรองจาก อาร์เซน่อล ทีมร่วมเมือง ที่ได้อันดับสอง และ เลสเตอร์ ซิตี้อย่างเจ็บปวด ซึ่งทำให้แฟนบอลทุกคนประหลาดใจในการคว้าแชมป์ครั้งนั้น

อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่นั้นมา ซน ก็ได้พิสูจน์ตัวเองว่าเป็นหนึ่งในผู้เล่นคนสำคัญของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ส และถูกวางตำแหน่งตัวเองให้เป็นหนึ่งในกองหน้า ที่น่าเชื่อถือที่สุดในโลกฟุตบอล

ฤดูร้อนที่ผ่านมา นักเตะชาวเกาหลีใต้รายนี้ ได้ต่อสัญญากับทีมไปอีก 4 ปี ซึ่งจะทำให้เขาอยู่ที่สโมสรจนถึงวันเกิดในอายุ 33 ปี ซึ่งเป็นรางวัลสำหรับ 108 ประตูของเขาตั้งแต่เข้าร่วมสโมสรแห่งนี้

“เขาเป็นนักฟุตบอลที่อัศจรรย์ และเป็นมนุษย์ที่น่าทึ่ง และผมภูมิใจในตัวเขามากกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว” Park Ji-Sung อดีตนักเตะ แมนฯยู และอดีตทีมชาติเกาหลีใต้กล่าวกับสื่อ

“ผมพูดกับเขาเสมอ และความอ่อนน้อมถ่อมตนของเขายังคงเป็น เฮือง-มิน ที่ผมรู้จักเมื่อตอนที่เขาผ่านเข้ามา

“เขาทำได้ดีมากสำหรับตัวเขาเอง และเป็นเรื่องดีจริง ๆ ที่เห็นว่าทุกคนสามารถเห็นว่าเขาเป็นหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดในโลกอย่างแท้จริง”

มีไม่มากนักที่นักเตะเอเชียที่จะได้รับการยอมรับ และเชื่อมั่นในฝีเท้า แต่ ซน เฮือง-มิน คนนี้คือหนึ่งในนักเตะเอเชียคนนึงที่ เพื่อนร่วมอาชีพ และแฟนบอลทั่วโลกให้การยอมรับ และนี่น่าจะเป็นแบบอย่าง และแรงบันดาลใจ ให้กับนักเตะเอเชียรุ่นใหม่ๆ อีกหลายคนที่จะทำเพื่อตามรอยก้าวของยอดนักเตะเอเชียคนนี้ ซน เฮือง-มิน 

Megabomb