ประวัติรูนีย์ จากสุดยอดนักเตะ สู่เส้นทางของ สุดยอดกุนซือหัวใจแกร่ง
ประวัติรูนีย์ ในชั่วโมงนี้ ทีมสโมสรวงการฟุตบอล ที่เป็นที่ถูกจับตามอง คงหนีไม่พ้น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และด้วยประวัติ ความเป็นมาอย่างยาวนานนอกจากจะเป็น ทีมที่มีตำนาน อย่างมากมายแล้ว ก็ยังมีนักเตะ ที่เป็นตำนานของปีศาจแดง อยู่หลายคนอีกด้วย
และวันนี้เราจะมา ตามตำนานของ นักเตะคนหนึ่ง ที่นอกจากจะโด่งดัง และเป็นตำนานแล้ว วันนี้เขาคนนี้ ก็ยังสร้างตำนาน อีกเพื่อประดับไว้ กับวงการฟุตบอลอาชีพ ที่ใหญ่ในระดับโลก
และเราขอพาทุกท่าน ไปเจาะลึกกับ ประวัติของผู้เป็นเจ้า ของตำนานคนนี้ค่ะ เขาคนนี้ก็คือ เวย์น รูนีย์ หมายเลข 8 ที่เคยเป็นหมายเลขเสื้อ ของเขาเคยเป็น สุดยอดดาวซัลโว และอดีตกัปตันทีมของ แมนยู เขาเป็นคนสัญชาติ อังกฤษโดยแท้ เกิดเมื่อปี 1985 ไม่น่าเชื่อว่า เขามีรูปร่างที่ ออกไปทางอวบอั๋น จนได้รับสมญานาม ว่าหมูฝีเท้าดี
และด้วยฟอร์มการเล่น ที่ยอดเยี่ยมและดุดัน ทำให้หลายคน ก็เรียกเขาว่าเจ้าหมูป่า เพราะเขาเกิดมาจาก ครอบครัวของนักฟุตบอล และเป็นลูกชาย ที่ต้องบอกว่า มีความดังและแจ้งเกิด ในสโมสรที่ดังอย่าง เอฟเวอร์ตัน ที่ตอนนั้นมี ไมเคิล โอเว่น ที่มาร่วมแจ้งเกิดคู่กัน และทำให้ทีมรุ่งเรืองขีดสุด ในสมัยที่เจ้าหนูรูนีย์ ยังเป็นเด็กอยู่นั้น เขามีความฝันว่า อยากจะได้ร่วมทีมกับ เอฟเวอร์ตัน และอยากจะใส่เสื้อ สีน้ำลงไปแข่งในสนาม
และดูเหมือนว่า ความฝันจะวิ่งใกล้ เข้ามาหาเขาทุกที เพราะแค่อายุ 11 ปี ก็ได้มีการเซ็นสัญญา เพื่อจะเข้าร่วมทีมเยาวชน ที่ตอนนี้ทำให้ เขามีความโดดเด่นมาก และเป็นนักเรียนที่ ลิเวอร์พูลสกูลบอยส์ และเขาก็ค่อย ๆ พัฒนาฝีมือจนเริ่ม จะเป็นดาวเด่น ประดับวงการไปแล้ว และสถิติที่เป็น
ความภูมิใจของเขา ก็มาถึงเมื่อเขา อายุเพียงแค่ 16 ปี ทำประตูในพรีเมียร์ลีกได้ และถูกบันทึกทันที ให้เป็นนักเตะ ที่อายุน้อยที่สุด ในการทำประตู และดันเป็นประตู ที่ช่วยชีวิตให้กับ ทีมเอฟเวอร์ตัน ที่ตอนนั้นเอาชนะอาร์เซนอล ทีมคู่แข่งไม่เคยแพ้ใครมา 30 นัดติดกัน
และในเมื่อความดังมาเยือน ก็ทำให้กลายเป็น วันเดอร์คิดคนใหม่ และตามมาด้วย รางวัลนักฟุตบอล ดาวรุ่งยอดเยี่ยมประจำปี 2002 แต่หลังจากนั้น แค่ปีเดียวทางเอฟเวอร์ตัน ประสบปัญหาเกิดตกต่ำลง และตัวของเค้าเอง ก็มีอาการบาดเจ็บด้วย ทำให้ฟอร์มการเล่น ของเขาดร็อปไปและ ยังประกอบไปด้วยพฤติกรรม ที่ไม่เหมาะสม ในสถานเริงรมย์
ประวัติรูนีย์ ในเมื่อเป็นดาวประดับฟ้าจะตกลงมานาน ๆ ได้อย่างไร
เขาได้กลับมา แจ้งเกิดอีกครั้งในศึกยูโร 2004 คราวนี้เขาทำผลงาน แบบที่เทวดา ยังเรียกพี่เลยนะ และได้กลายเป็น คนสำคัญของทีม ที่เมื่อมาถึงตอนนี้ เขากลบรัศมีของ โอเว่นแบบสนิท เพราะสไตล์การเล่นแบบดุดัน รวดเร็วและสุดยอดแห่งพรสวรรค์ ต่อมาเขาบาดเจ็บอีกครั้ง คราวนี้กระดูกที่เท้าแตก ก็เลยกลายเป็นโ อกาสให้หลายทีม ต้องการตัวเขา ไปร่วมทีมด้วย
ในขณะที่เอฟเวอร์ตัน ก็พยายามที่จะปกป้อง สมบัติล้ำค่า ตัวนี้ไว้ให้ได้ แต่ไม่ว่ารูนี่ จะรักเอฟเวอร์ตัน มากขนาดไหน ก็ไม่สามารถ ปฏิเสธความก้าวหน้า และต้องการไปเติบโต ทำทางปีศาจแดง เสี่ยงซื้อตัวนักเตะ ด้วยราคาแพง ในขณะที่ยังป่วยอยู่
และรูนีย์ก็ไม่ได้ ทำให้ทีมปีศาจแดงผิดหวัง เพราะทันทีที่ เขาหายจากการบาดเจ็บ ที่เท้าก็โชว์ผลงาน ในเกมของยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วยการทำแฮจทริกทันที และต่อมาในอาชีพ ของการเป็นนักเตะ ให้กับทีมปีศาจแดง ดันไปงัดข้อ กับโรนัลโด และในที่สุดก็สามารถ สยบข่าวลือด้วย การเล่นที่เข้าขากัน จนพาทีมได้แชมป์พรีเมียร์ลีก ได้สำเร็จในปี 2006 และเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกแรก ของรูนีย์อีกด้วย
นำเอาเทคนิค และประสบการณ์ที่ Rooney มีมานาน เพื่อถ่ายทอดในฐานะโค้ช
ประวัติรูนีย์ ปฏิเสธได้ว่า เขาไม่ใช่ศูนย์หน้าระดับโลก ถึงแม้ว่าจะถูก ให้เปลี่ยนตำแหน่ง ไปเล่นในจุดอื่น เขาก็ยังจะทำประตูได้ อีกหลายครั้งแบบไม่น่าเชื่อ และก็คงต้องบอกว่า เขานั้นได้สร้างชื่อเสียง มาแล้วอย่างมากมาย และยังเป็นนักเตะแถวหน้า ที่อยู่กับทีมปีศาจแดงได้กว่า 10 ปี
และในช่วงท้าย ๆ ของอาชีพเขานั้น ก็ยังได้มีโอกาส ไปค้าแข้งอยู่ในสหรัฐที่สโมสร ดีซี ยูไนเต็ด ถึงสองฤดูกาลด้วยกัน ต่อมาเขารู้สึกว่าคิดถึงบ้าน และรู้สึกได้ว่า ตัวเองนั้นมีร่างกาย ที่ไม่ค่อยจะเอื้ออำนวย ในฐานะนักเตะอีกแล้ว
ทำให้การมาครั้งนี้ของเขา ต้องมาในฐานะ นักเตะและโค้ช เรียกว่าควบกันถึงสองตำแหน่ง แต่ว่าได้ค่าเหนื่อย ที่น้อยมากประมาณสัปดาห์ละ 15,000 ปอนด์เท่านั้น ในสมัยก่อนที่เป็น นักเตะชื่อดัง ได้รายได้สัปดาห์ละ 10 ล้านปอนด์ เรียกว่าห่างไกลอย่างมาก และอะไรที่ทำให้ เขาต้องยอมขนาดนี้ ทำหลายคนแอบสงสัย และคิดว่าการที่เขา ทำแบบนี้แน่นอนว่า น่าจะมีเป้าหมาย ในการเป็นโค้ช อย่างแน่นอนและก็ยังมี พูดกันไปต่าง ๆ นา ๆ
เมื่อต้องมาเป็นโค้ชจริงๆ ที่เส้นทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ
จนในที่สุด เขาก็ได้เป็นโค้ช และเมื่อถึงเวลา ที่จะต้องมาเป็น ผู้จัดการทีม เขาก็แค่ทำตาม ที่เขาเคยพูด และคิดไว้ก่อนหน้าแล้ว ว่าการเป็นผู้จัดการทีม นั้นไม่สามารถ ที่จะกลัวใน สิ่งที่กำลังจะเกิด แต่ต้องจัดการ กับมันและตอนนี้ ถึงเวลาของเขา ที่จะได้มาเป็น ผู้ที่ต้องจัดการบ้างแล้ว
และคราวนี้เจ้าหนูรูนีย์ ในวันนั้นก็ได้มาเป็น ผู้จัดการทีมครั้งแรก แบบเต็มตัวให้กับที ดาร์บี ที่ตอนนี้อยู่ในอันดับที่ 24 ของลีก เดอะแชมเปี้ยนชิพ หรือถ้าจะบอกว่า ตำแหน่งบ๊วยของลีก ก็น่าจะพูดได้ งานแรกที่เขาต้องทำ แบบเร่งด่วนก็คือ รวบรวมทีมที่กำลัง จะแตกให้กลับมา ในสภาพที่พร้อมใช้งาน
และยังต้องแก้ปัญหาต่าง ๆ ของทีมและในที่สุด เขาก็ทำตาม ที่ได้ตั้งโจทย์ไว้ ตั้งแต่ครั้งแรก และเมื่อฤดูการที่ 2020-2021 เขาก็ได้ทำตามโจทย์ ไปเป็นที่เรียบร้อย และหลายคนอาจจะคิดว่า เขาน่าจะลาขาด ไปจากทีมนี้ เพราะยังไงก็ทำสำเร็จแล้ว แต่ไม่ใช่แบบนั้นเขายังเป็น รูนี่คุมทีม และได้พาทีมไปในทิศทางที่ถูกต้อง
และบรรดาพวกที่ เคยสบประมาท พร้อมด้วยนักเตะ วันนี้ยอมศิโรราบ ต่อเขาคนนี้แล้ว และหมดข้อสงสัย ในกุนซือที่ไม่ใช่ แค่สุดยอดของนักเตะ แต่ต่อไปจะเป็น สุดยอดแห่งกุนซือ อีกด้วยในอนาคต ทุกท่านสามารถติดตาม บทความ srilankafootball ที่น่าสนใจ และ ประวัติรูนีย์ แบบนี้ได้ตลอดทาง หน้าเว็บไซต์ของเราค่ะ
เรียบเรียง BOMEBAMB