ข่าวฟุตบอล ลิเวอร์พูล เส้นทางการลุ้นแชมป์ในฤดูกาล 2021/2022 ของทัพหงส์แดง จะมีรายการไหนกันบ้าง
ข่าวฟุตบอล ลิเวอร์พูล บทความ srilankafootball ที่น่าสนใจ เรามาเริ่มต้นกันที่ ทีมลิเวอร์พูล ในฤดูกาลปัจจุบัน เดินทางมาถึงช่วงท้ายของฤดูกาลแล้ว หลังจากคว้าแชมป์ ลีก คัพ ไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ จากการเอาชนะจุดโทษ เชลซีในรอบชิง
ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ หงส์แดงต้องขับเคี่ยวแย่งแชมป์กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หลังจากแข่งกันไปแล้ว 33 นัดเท่ากัน ทีมเรือใบสีฟ้า มี 80 คะแนนนำเป็นจ่าฝูง โดยลิเวอร์พูลมี 79 คะแนนตามอยู่ 1 แต้ม
โปรแกรม 5 นัดที่เหลือของทั้ง 2 ทีม จากเว็บ Liverpool in Thailand
– แมนฯซิตี้ : ลีดส์ (เยือน), นิวคาสเซิ่ล (เหย้า), เวสต์แฮม (เยือน), วูล์ฟส์ (เยือน), แอสตัน วิลล่า (เหย้า)
– ลิเวอร์พูล : นิวคาสเซิ่ล (เยือน), สเปอร์ส (เหย้า), แอสตัน วิลล่า (เยือน), เซาท์แธมป์ตัน (เยือน), วูล์ฟส์ (เหย้า)
สรุปข่าวลิเวอร์พูล ในฤดูกาลนี้ เจอกันมาแล้ว 3 ครั้ง ในลีกเสมอกันไป 2-2 ทั้ง 2 นัด ส่วนอีกนัดเจอกันในศึกเอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ เป็นลิเวอร์พูลเอาชนะไปได้ 3-2
ส่วนในถ้วยเอฟเอ คัพ ข่าวลิเวอร์พูลล่าสุดวันนี้ สยามสปอร์ต ทีมเข้ารอบไปชิงชนะเลิศกับ เชลซี ในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้
ข่าวฟุตบอล ลิเวอร์พูล แล้วทำไมฤดูกาลนี้ลิเวอร์พูลถึงกลับมาน่ากลัวอีกครั้ง หลังจากฤดูกาลที่แล้วจบเพียงอันดับที่ 3 ในลีกห่างกับแชมป์อย่างแมนฯซิตี้ ถึง 17 แต้ม
ข่าวฟุตบอล ลิเวอร์พูล เมื่อฤดูกาล 2020/2021 หงส์แดงมีปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวน กองหลังตัวหลักอย่าง เฟอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ที่เจ็บทั้งฤดูกาล ส่วนกองหลังตัวอื่นก็ทยอยสลับกันเจ็บ โฌเอล มาติป, โจ โกเมซ เป็นต้น ทำให้ต้องถอยฟาบินโญ่ กับ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน มายืนเป็นกองหลังคู่กันในบางเกม แถมยังต้องใช้ รีส วิลเลี่ยมส์ กองหลังดาวรุ่ง ลงสนามในบางครั้ง
เยอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือสมองเพชรของทีม จึงแก้ปัญหาโดยการซื้อ อิบราฮิม่า โคนาเต้ กองหลังดาวรุ่ง สัญชาติฝรั่งเศส จากทีม อาร์เบ ไลป์ซิก มาเสริมทีม และการได้ตัวผู้เล่นหลักที่หายเจ็บกลับมา ทำให้ปีนี้ ทัพหงส์แดง กลับมาลุ้นแชมป์ถ้วยใหญ่ๆ เต็มตัว
ข่าวลิเวอร์พูลล่าสุด ซื้อนักเตะ อีกรายมาในช่วงตลาดซื้อขาย เดือนมกราคม ทุ่มซื้อ หลุยส์ ดิอาซ จากเอฟซี ปอร์โต้ 45 ล้านยูโร เจ้าตัวก็โชว์ผลงานโดดเด่น ลงไป 9 นัดในลีก ยิงไป 3 ประตู 2 แอสซิสต์ จนทำให้ปีนี้ เรด แมชชีน มีโอกาสคว้าแชมป์ 4 รายการใหญ่
นอกจากนี้ยังได้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่โชว์ฟอร์มร้อนแรง นำเป็นดาวซัลโว ยิงไปแล้ว 22 ประตูในลีก ส่วนการจ่ายให้เพื่อนทำประตู มีถึง 3 คนที่สถิติจ่ายกันมากกว่า 10 ลูก โม ซาลาห์ 13 ครั้ง, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ 12 ครั้ง และแอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน 10 ครั้ง
อีกสองกองหน้าตัวหลักอย่าง ดิโอโก้ โชต้า และซาดิโอ มาเน่ ก็ฟอร์มดีไม่แพ้กัน ยิงไป 15 กับ 14 ประตูตามลำดับ
ย้อนรอยฤดูกาล 2019/2020 ลิเวอร์พูลคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยแรกเป็นประวัติศาสตร์ได้
ทัพหงส์แดงในฤดูกาล 2019/2020 ทำได้ถึง 99 แต้ม แต่ถ้านับลีกสูงสุดแล้วเป็นสมัยที่ 19 ของสโมสร แต่ครั้งล่าสุดต้องย้อนกลับไปสมัยใช้ชื่อว่า ดิวิชั่น 1
ฤดูกาลนั้น ลิเวอร์พูลมีขุมกำลังที่พร้อมมากๆ เพราะฤดูกาลก่อนหน้านี้ทีมคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ ลีกสมัยที่ 6 ได้ แต่จุดอ่อนก็อยู่ตรงที่ม้านั่งสำรอง ที่คุณภาพต่างกับตัวจริงมาก ต่างจากปัจจุบัน
11 ตัวจริงหลักในฤดูกาล 2019/2020 ระบบ 4-3-3
ผู้รักษาประตู : อลิสซอน เบ็คเกอร์
กองหลัง : เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โจ โกเมซ, เฟอร์จิล ฟาน ไดจ์ค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน
กองกลาง : ฟาบินโญ่, จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน
กองหน้า : ซาดิโอ มาเน่, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, โมฮาเหม็ด ซาลาห์
การได้เฟอร์จิล ฟาน ไดจค์ กับ อลิสซอน เบ็คเกอร์ ทำให้ทีมครองเจ้ายุโรปเป็นสมัยที่ 6 ในปี 2019
ข่าวลิเวอร์พูล ต่อมา หลังจากได้รองแชมป์ศึก ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ ลีก เมื่อปี 2018 แพ้ให้กับเรอัล มาดริดในนัดชิง 1-3 ในฤดูกาล 2018/2019 ลิเวอร์พูลได้เสริมทัพครั้งใหญ่ สอยอลิสซอน เบ็คเกอร์ ผู้รักษาประตูทีมชาติบราซิล จากโรม่า 72.5 ล้านยูโร เส้นทางการได้แชมป์ไม่ได้โรยมาด้วยกลีบกุหลาบ เกือบตกรอบแบ่งกลุ่มถ้าไม่สามารถเอาชนะ นาโปลี ได้ 1-0 ในนัดสุดท้าย เพราะได้ลูกเซฟลูกยิงจ่อๆ ของอลิสซอน
ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย เอาชนะบาเยิร์น มิวนิค สกอร์รวม 3-1 // รอบ 8 ทีมเอาชนะปอร์โต้ 6-1 // รอบรองชนะเลิศถือว่าเป็นหนึ่งในนัดประวัติศาสตร์ของวงการฟุตบอลเลยก็ว่าได้
รอบรองชนะเลิศ ลิเวอร์พูลเข้าไปเจอกับ “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่า นัดแรกที่คัมป์ นู หงส์แดงบุกไปแพ้ 0-3 แต่ด้วยแรงหึดจากกองเชียร์ที่แอนฟิลด์ ทีมกลับมาเอาชนะได้ที่แอนฟิลด์ 4-0 ทั้งๆที่แนวรุกขาด โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่กับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ต้องใช้บริการ “เทพกี้” ดิวอค โอริกี้ ที่ลงเป็นตัวจริงยิงไป 2 ลูก บวกกับตัวสำรองอย่าง ไวจ์นัลดุม อีก 2 ลูก
ส่วนนัดชิงชนะเลิศ ลิเวอร์พูลเอาชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ทีมจากลีกเดียวกันได้ 2-1 คว้าแชมป์ยุโรปสมัยที่ 6 ไปครอง
LOKI