เส้นทางการเป็นแชมป์ของ ฟุตบอลทีมชาติไทย

คอกีฬาบ้านเราโดยเฉพาะคนที่อยู่ในวงการฟุตบอลต่างก็ต้องรู้จัก ฟุตบอลทีมชาติไทย กันมาบ้างแล้วซึ่งในปัจจุบันนักเตะทีมชาติไทย ถือได้ว่ากำลังทำหน้าที่ในฐานะตัวแทนประเทศไทย ซึ่งกำลังตั้งใจทำหน้าที่ซึ่งไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันในระดับนานาชาติ ซึ่งบทความในวันนี้ เราจะได้มาทำความรู้จักฟุตบอล ทีม ชาติ ไทย ซึ่งแน่นอนว่าเรื่องราวของพวกเขานั้นไม่ธรรมดาและความดังไม่ได้แพ้ เจ้าของแมนซิตี้ หรือ นักกอล์ฟชายอันดับ 1 ของโลก

ฟุตบอลทีมชาติ ของไทยได้มีการก่อตั้งมาตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน 2458 และในตอนนั้นก็ใช้ชื่อว่า คณะฟุตบอลสำหรับชาติสยาม ที่ประกอบไปด้วยนักเตะ 11 คนตอนแรกดังต่อไปนี้

นักเตะ ฟุตบอลทีมชาติไทย ชุดแรกที่ไม่ได้แพ้ ฟุตบอลทีมชาติญี่ปุ่น

นักเตะชุดแรกของ ทีม ชาติ ไทย ประกอบไปด้วย ผู้รักษาประตูก็คือ อิน สถิตยวณิช เขามากับเพื่อนร่วมทีมที่มีกองหลังอย่าง แถม ประภาสะวัต, ต่อ ศุกระศร, ภูหิน สถาวรวณิช และได้ ดาต เสตกิสกร,กิมฮวด วณิชยจินดา มาเป็นกองหลัง ในส่วนของกองหน้าก็คือ ตาด เสตะกสิกร ,กิมฮวด วณิชยจินดา ได้กองหน้าในตำนานก็คือ หม่อมเจ้าสิทธิพร กฤดากร, ชอบ หังสตูต, โชติ ยูปานนท์, ศรีนวล มโนหรทัต และ จรูญ รัตโนดม

ในช่วงแรกๆ ได้มีการจัดการแข่งขัน ทีมชาติไทย ผู้เล่น กับทีมสปอร์ตคลับฝ่ายยุโรป ซึ่งมีนักเตะที่เป็นสัญชาติอังกฤษ ได้มาแข่งขันกันซึ่งในนัดแรกนั้นทีมชาติแห่งสยาม สามารถเอาชนะทีมที่เป็นนักเตะของอังกฤษไป 2-1 และหลังจากที่ชนะในตอนนั้น ทำให้ประชาชนบ้านเราก็เริ่มหันมาสนใจกีฬาฟุต บอลไทย มากยิ่งขึ้น

แต่เมื่อมาถึงปี 2459 คือในสมัยของรัชกาลที่ 6 พระองค์ได้ทรงก่อตั้ง สมาคมฟุตบอลแห่งสยาม ทำให้ในปี 2473 ทีมชาติแห่งสยาม ก็เลยมีโอกาสเข้าร่วมการแข่งขันระหว่างประเทศเป็นครั้งแรก กับทีมชาติในทวีปอินโดจีน ตอนนั้นเป็นช่วง 2481-2482 ทำให้ในตอนนั้นเองทางสมาคม ก็ได้มีการเปลี่ยนจาก สมาคมฟุตบอลแห่งสยามไปเป็นสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย และก็ได้ใช้ชื่อนี้มาจนถึงวันนี้ค่ะ

ทีมชาติ บอลไทย ได้ร่วมการแข่งขันโอลิมปิก ซีเกมส์ คิงส์คัพ เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ

ต่อมาประมาณฤดูร้อนปี 2499 ฟุตบอลประเทศของเราก็ได้รับสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกในกีฬาประเภทนี้ ตอนนั้นเป็นการแข่งขันกันที่ ณ เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลียที่ตอนนั้น ได้โค้ชผู้ฝึกสอนคือ บุญชู สมุทรโคจร ซึ่งกติกาของการแข่งขันคือเป็นแบบแพ้แล้วคัดออก

แต่ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์และทักษะของการเป็น นักเตะทีมชาติไทย ที่ยังไม่เพียงพอ ทำให้ทีมชาติของไทยแพ้ให้กับทางทีมชาติของอังกฤษไปถึง 0-9 ประตู และตกรอบในทันทีที่เริ่มเข้าไปแข่งขัน

ทำให้ในช่วงปี 2511 ทีม ชาติ ไทย ก็ได้รับโอกาส เข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกอีกครั้งซึ่งตอนนั้นได้พลเอก ประเทียบ เทศวิศาล มาเป็นผู้จัดการทีม ซึ่งน่าเสียดายมากที่ทีมชาติของไทย ก็ยังไม่สามารถเข้ารอบไปได้อีก ที่ถือว่าเป็นการพ่ายแพ้แบบแสนสาหัสของครั้งนั้น คือแพ้ให้กับทางทีมชาติบัลแกเรียคือ 0-7 แถมยังได้ไปแพ้ให้กับทีมชาติกัวเตมาลาอีก 1-4 แถมยังไปแพ้ให้กับเช็กโกสโลวเกียอีก 0-8 ทำให้ก็ต้องตกรอบไปโดยปริยาย ทำให้ตั้งแต่ตอนนั้นถึงตอนนี้ฟุตบอลของไทย ก็ยังไม่เคยได้เข้าไปร่วมการแข่งขันโอลิมปิกอีกเลยค่ะ

ได้เวลาที่ทีมฟุตบอลของไทยเริ่มจะมีแวว

ปี 2508 บอลทีมชาติไทยสร้างความภูมิใจให้กับประชาชนชาวไทย คือสามารถเดินทางไปคว้าเหรียญทอง ในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ที่ในสมัยนั้นเรียกว่ากีฬาแหลมทอง ที่นักเตะทีม บอลไทย สามารถคว้าแชมป์ติดต่อกันไปถึง 8 สมัยเลยทีเดียว ซึ่งในปัจจุบันก็ยังสามารถรักษาแชมป์ ที่ติดต่อกันอย่างยาวนานได้ถึง 16 สมัย

และเมื่อพัฒนาฝีเท้าได้ในระดับหนึ่ง ทำให้การแข่งขันคิงส์คัพและเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ นักเตะชุดทีมชาติของไทยก็ยังคงทำได้ดีมาตลอด คือสามารถคว้าแชมป์ได้มากที่สุด รวมแล้วก็ประมาณ 15 สมัยสำหรับคิงส์ คัพ และอีก 7 สมัยคือรายการ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพอีกด้วยค่ะ

สำหรับ ฟุตบอลทีมชาติไทย ในปัจจุบัน

พอมาถึงปี 2562 ฟุตบอลทีมชาติ ของไทยก็ได้มีการแต่งตั้งอดีตนักเตะและผู้ฝึกสอนที่มีสัญชาติญี่ปุ่นอย่าง อากิระ นิชิโนะ มาขึ้นแท่นในตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนให้กับ ฟุตบอลทีมชาติไทยชุดใหญ่ ของเรา รวมไปถึงทีมชาติที่เป็นนักเตะอายุไม่เกิน 23 ปี อย่าง ฟุตบอลทีมชาติไทย u23 ซึ่งผู้ฝึกสอนชาวญี่ปุ่นรายนี้ ก็ได้ทำหน้าที่มาจนถึงปี 2564 เลยทีเดียว ก่อนที่จะถูกปลดไป เพราะว่าผลงานไม่ได้เป็นไปตามข้อตกลง

ต่อมาทีมชาติไทยก็ได้ผู้ฝึกสอนคนใหม่อย่าง อาเลซังดรี ปอลกิง และตั้งแต่นั้นมาทีมชาติไทยก็ได้สร้างผลงานได้เป็นอย่างดีมาโดยตลอด ซึ่งรวมไปถึงครองความเป็นแชมป์อย่าง เอเอฟเอฟ ซูซูกิน คัพ ตั้งแต่ปี 2563 และ 2565

และทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่เริ่มต้นของ ฟุตบอลทีมชาติไทยสด ของเรา ซึ่งเต็มไปด้วยประวัติและความรู้สึกอันทรงเกียรติกับทุกๆ บทเรียนอันคุ้มค่า ทำให้ ฟุตบอลทีมชาติไทย ได้รับประสบการณ์แถมยังได้หล่อหลอม ให้กับทีมชาติของเราคือทีมหนึ่งที่ทำให้พวกทีมผู้ท้าชิงในแถมเอเชียนั้นไม่ได้แพ้ชาติใดในโลก เราก็ขอเอาใจและตามไปช่วยกันเชียร์ ฟุตบอลทีมชาติ ไทยได้แล้วล่ะค่ะ