ติดตามข่าวกีฬาบอล อัพเดทข่าวสารกีฬาฟุตบอล อ่านกันอย่างจุใจ

ฟุตบอลทีมชาติจีน

ตามหามุมมองไปกับกูรูเกี่ยวกับ ฟุตบอลทีมชาติจีน

ถ้าหากมองย้อนไปในหลายปีที่ผ่านมา เมื่อไหร่ก็ตามที่ ฟุตบอลทีมชาติไทย จะต้องไปเจอกับ ฟุตบอลทีมชาติจีน แน่นอนว่ามันจะกลายเป็นเกมการแข่งขันที่ดูเหมือนว่า จะยากเกมหนึ่งเลยทีเดียวทำให้ ไทย พบ จีน คัดบอลโลก อาจจะไม่ใช่เรื่องยาก แม้ว่าเขาจะไม่ใช่ทีมที่ผูกขาด การเป็นแชมป์ในภูมิภาคเอเชีย แต่มันดันมีความยิ่งใหญ่ หลายๆ อย่างไม่ได้แพ้ นักกอล์ฟชายไทย โอลิมปิก ซึ่งมีความดังไม่ถึง เจ้าของอาร์เซนอล ก็ตาม

แต่ด้วยความที่พวกเขาได้หล่อหลอมให้ นักเตะทีมชาติจีนชาย เป็นที่น่าจับตามองมาโดยตลอด ซึ่งเริ่มกันตั้งแต่ลีกอาชีพของพวกเขาอย่าง ไชนิส ซูเปอร์ ลีก ไปจนถึงความเก๋าของกุนซือชื่อดังอย่าง มาร์เซโล่ ลิปปี้ ตลอดจนความอู้ฟู่ของ นักเตะทีมชาติจีนชาย ที่โลดแล่นอยู่ในลาลีกาลีก อย่าง อู๋เหลย ที่ถือว่าเป็นฟันเฟืองที่สำคัญ

ไทย พบ จีน คัดบอลโลก

แต่ตอนนี้ ฟุตบอลทีมชาติจีน ไม่ได้น่าเกรงขามอีกต่อไป

และเมื่อเวลาได้ผ่านไป เราก็มาถึงยุคสมัย ที่ภาพรวมของทีมชาติจีนชุดใหญ่ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกลายเป็นเหมือนหนังคนละม้วนกับอดีตที่ผ่านมา ทำให้ไม่ว่าทีมไหนๆ ที่มีคิวจะต้องเจอกันกับทีมชาติจีน ก็ไม่มีความกลัวเกรงอีกต่อไป อาจจะมีสงสัยนะคะว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น

นั่นก็เพราะว่าสภาพการณ์ของ ทีมชาติจีน ในปัจจุบัน ในสายตากูรูชาวไทย ที่สันทัดกรณีเรื่องเกี่ยวกับฟุตบอลของจีน มาอธิบายให้เราได้ทราบกัน ซึ่งเราจะมาเริ่มกันที่สารตั้งต้นคือ ฟุตบอลลีก คือตั้งแต่ที่ทางรัฐบาลจีน หันมากวาดล้างอย่างจริงจังเกี่ยวกับเรื่องคอร์รัปชั่น อย่างพวกการล้มบอล

มันมีสิ่งที่ทำให้วงการฟุตบอลบ้านเขา ถูกถอนรากถอนโคน ประมาณปี 2010 ตอนที่ สี จิ้นผิง ตอนนั้นเขาดำรงตำแหน่งเป็นแค่รองประธานาธิบดี ได้มีการตั้งปณิธานอยากให้ วงการลูกหนังบ้านเขา กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง ซึ่งนี่คือความฝันของผู้นำ เขาว่าต้องการจะเห็นบอลจีน กลายเป็นมหาอำนาจทางกีฬาชนิดนี้ให้ได้ภายในปี 2050

และเมื่อเขาก้าวขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีในปี 2013 เขาก็เดินหน้าทำตามเป้าหมายที่เคยคิดไว้แบบจริงจัง โดยการทำให้การสร้างภาพลักษณ์ให้ ฟุตบอลชายทีมชาติจีน ดีขึ้น โดยให้มีการลงทุนไปยังทุกภาคส่วน ที่อยู่ในความร่วมมือของทั้งภาครัฐและภาคเอกชน รวมไปถึงให้ประชาชนเป็นฟันเฟือง

ก่อนอื่นเขาต้องทำลีกอาชีพ ให้มีการพัฒนาให้มากที่สุดก่อน ทำให้งานนี้บรรดานักธุรกิจเห็นโอกาส และพยายามเข้ามาเป็นเจ้าของสโมสรในประเทศมากยิ่งขึ้น แต่เป้าหมายไม่ใช่เพื่อใจรักกีฬาชนิดนี้ แต่เพื่อเป็นการเอาใจรัฐบาล

นักเตะทีมชาติจีนชาย

เมื่อ ทีมชาติจีน มีความพร้อมทางด้านการเงิน การดึงตัวนักเตะระดับโลกไม่ใช่เรื่องยาก

เมื่อรัฐบาลเปิดไฟเขียวเต็มที่ แล้วแต่ละทีมก็มีแต่เงินถุงเงินถัง ทุกสโมสรไม่ว่าจะเป็นขนาดเล็กหรือว่าใหญ่ ต่างก็พร้อมใจกันไปตามหาและซื้อเอานักเตะระดับท็อปของโลก มาร่วมทีมแบบกินกันไม่ลง อย่างเช่น ดิดิเยร์ ดร็อกบา,นิโกลาส์ อเนลก้า ,โลค์และอีกหลายคน

และในขณะเดียวกันทาง นักเตะทีมชาติจีนชาย ก็พยายามพัฒนาฝีเท้าของตัวเองไปด้วย ทำให้ดูเหมือนว่าพวกสโมสรจีน ก็เริ่มจะขยับเข้าสู่การเป็นทีมที่มีความแกร่งแห่งทวีปอย่างเช่น ทีมกว่างโจว เอวอร์แกรนด์ ซึ่งเป็นทีมที่ไปไกล ถึงขนาดเป็นแชมป์เอเอฟซี แชมเปี้ยนลีกหรือศึกชิงแชมป์ของพวกสโมสรเอเชีย ถึงสองสมัยก็คือปี 2013 และ 2015

ที่ดีงามไปกว่านั้นก็คือ ลีกที่มีความแข็งแกร่ง แต่ยังช่วยส่งผลให้ บอลทีมชาติจีน ชุดใหญ่ด้วย ก่อนหน้าจีนเคยมีอันดับโลกฟีฟ่าอยู่ที่ 57 ตอนปี 2017 รวมถึงผลงานที่ทัพมังกร ก็ยังเคยมีประวัติว่าปราบทีมแกร่งๆ มาแล้วอย่างเกาหลีใต้ อุซเบกิสถาน และกาต้าร์ตอนศึกรอบคัดเลือกในฟุตบอลโลกมาแล้ว 2018

ถึงแม้ดูไปแล้ววงการฟุตบอลจีน จะเติบโตแบบผลิดอกออกผลจนทำให้ชาวโลก ต่างก็จับตามอง ซึ่งไม่ใช่ว่าจะมีความราบรื่น แต่เมื่อต้องมาดูกันที่ผลลัพธ์อย่างเช่น เรื่องที่เกี่ยวกับค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะเงินค่าจ้างที่แต่ละทีมต้องจ่ายไปให้กับบรรดานักเตะต่างชาติ ทำให้เกิดภาพจำเกี่ยวกับเงิน ที่ไหลออกนอกประเทศ ซึ่งมันมากกว่ารายรับ

หนำซ้ำคือตอนที่เกิดวิกฤตโควิด-19 คือต้องเจอเข้ากับมาตรการล็อกดาวน์ ทำให้กินเวลานานถึง 2 ปีสโมสรต่างๆ ไม่สามารถสร้างรายได้เพียงพอ ทำให้ต้องติดเงินค่าจ้างนักเตะรวมไปถึง โค้ชและบุคลากรต่างๆ เพราะว่าลีกจำเป็นจะต้องหยุดการแข่งขัน

บอลทีมชาติไทย

ภาพจำของ ฟุตบอลทีมชาติจีน เปรียงดังของเล่นของคนรวย

ถึงแม้ว่าจะเป็นเหมือนของเล่นของพวกคนรวยก็จริง แต่ดันเกิดภาวะชะงักงัน และเมื่อธุรกิจของฟุตบอล ที่ไม่ได้ทำกำไรเท่ากับบริษัทอื่นในเครือ ทำให้พวกเขาจำเป็น จะต้องตัดสินใจให้สอดคล้องกับกลไกทางการตลาด คือต่างคนต่างก็ยุบทีมกันไปตามระเบียบ

ประเด็นสำคัญที่อยากจะทราบแค่ว่า บอลทีมชาติไทย นั้นจะสามารถสู้กับ บอลทีมชาติจีน ได้หรือไม่หรือ จีน VS ไทย จะได้หรือไม่ ซึ่งต่อมาไม่นานมานี้จากผลงานของ บอลทีมชาติจีน ในช่วงหลังๆ ดูเหมือนว่าจะไม่สู้ดีเท่าไร ซึ่งแค่เสมอและแพ้ทีมอันดับโลกที่ต่ำกว่าอย่างเช่น มาเลเซียและซีเรีย ซึ่งเป็นการแข่งขันในบ้านของตัวเองทำให้ บอลไทยจีน ล่าสุด น่าจะพอมีหวัง

ทีมจากชาติอื่นต่างก็มีลุ้นเมื่อมีคิวต้องแข่งขันกับ ฟุตบอลทีมชาติจีน และถึงแม้ว่าต่อให้ช่วงหลังนี้ทีมจีนอาจจะดูไม่เกรงขามแล้วก็ตาม แต่ทว่าจุดแข็งของ ทีมชาติจีน นั้น ยังคงยึดหลักปฏิบัติเรื่อยมา ก็คืออิสรเสรี ความฟิต รวมไปถึงสอดคล้องกับวิทยาการด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา ที่มีจุดแข็งมากๆ ยังคงเป็นหมัดเด็ดที่ทัพมังกร เอามาใช้เพื่อเล่นงานทีมชาติอื่นๆ นั่นเองค่ะ